
Cristiano Ronaldo คริสเตียโน โรนัลโด้ ดอส ซานโต๊ส อเวโร่ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1985 ณ เมืองมาเดรา ประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันเขาอายุ 36 ปี และจุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลเข้าสู่วงการลูกหนังของเขาก็ได้เริ่มต้นจากการเข้าร่วมกับทีมเยาวชนของ Andorinha เมื่ออายุ 6 ขวบ ก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่กับ Nacional ในอีก 2 ปีต่อมา และได้โชว์ฟอร์มเฉิดฉายแววที่โดดเด่นจนได้เข้าสู่อคาเดมีของทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศโปรตุเกส ในวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น และเขาก็ได้พัฒนาฝีเท้ามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้ถูกดันตัวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของสปอร์ติ้ง ลิสบอน และลงสนามครั้งแรกตอนวัยเพียง 17 ปีเท่านั้นในฤดูกาล 2002 – 2003 และเจ้าหนูคนนี้ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป โดยสามารถทำผลงานได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เขาได้รับโอกาสลงสนามมากถึง 31 นัดในทุกรายการ และยิงประตูไปได้ 5 ประตู ซึ่งก็ถือได้เลยว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับนักเตะดาวรุ่งในวัยเพียง 17 ย่างเข้า 18 ปีเท่านั้น พร้อมกับได้เป็นที่น่าสนใจให้กับสโมสรชั้นนำชื่อดังมากมายทั่วยุโรป
ไม่นานจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาก็ได้เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น เมื่อเดือนสิงหาคม ของปี 2003 ซึ่ง ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้บุกไปเยือนถึงถิ่น สปอร์ติ้ง ลิสบอน และเกมจบลงด้วยชัยชนะของ สปอร์ติ้งลิสบอน โดยทำสกอร์ไป 3-1 พร้อมกับโชว์ฟอร์มสุดโหดของ Cristiano Ronaldo ซึ่งเขาก็สามารถเล่นงานเกมรับของทีมผีแดงได้อย่างดี จนเกมรับปั่นป่วนตลอดทั้งเกม จนถึงขั้นที่เหล่าบรรดานักเตะของแมนยูต้องไปบอกกุนซืออย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่าให้รีบไปดีลกระชากตัวเจ้าหนูดาวรุ่งคนนี้มาร่วมทีมโดยด่วน และหลังจากนัดนั้นผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว เจ้าหนูคนนี้ก็ได้ดีลซื้อตัวเข้ามาเยือนถิ่นยัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น พร้อมด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นก็ถือได้ว่าเป็นสถิตินักเตะอายุน้อยที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลบนเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้น

การย้ายมายังถิ่นปีศาจแดงของ Cristiano Ronaldo เขาก็ได้ขอสวมเสื้อหมายเลข 28 ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับที่เขาใส่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่กุนซือก็ได้มอบเสื้อ หมายเลข 7 ให้กับเขาซึ่งเป็นเบอร์เดียวกันกับนักเตะระดับตำนานอย่าง เอริค คันโตน่า หรือ เดวิด เบ็คแฮม และเขาก็ได้ใช้ เบอร์ 7 เป็นแรงผลักดันทำให้ตัวเขาเองก้าวขึ้นมาสู่สุดยอดนักเตะระดับโลก อีกทั้งยังมีสุดยอดกุนซืออย่าง เฟอร์กี้ ที่จะช่วยขัดเกลา และบ่มเพาะ ฝึกฝนฝีเท้า ฟอร์มการเล่น ก็ยิ่งทำให้เขาพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว มากกว่าเด็กคนอื่นๆ และโชว์ฟอร์มสุดโดดเด่นใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเขาได้ทำประตูไป 6 ลูกจากการลงเล่นทั้งหมด 40 นัดในทุกรายการ และต่อมา เขาก็ได้ขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะ ของเกาะอังกฤษ พรีเมียร์ลีก ช่วยพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้มากถึง 3 สมัยซ้อน รวมไปถึงแชมป์อื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะในปี 2008 เขาก็ได้รับรางวัล บัลลงดอร์ และรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่า มาครองได้สำเร็จ หลังจากเขาได้ตัดสินใจยุติเส้นทาง 6 ปีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด Cristiano Ronaldo ย้ายมายังสโมสรยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มาพร้อมด้วยค่าตัวมากถึง 80 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นนักเตะ ค่าตัวแพงที่สุดของโลก ของเวลานั้น และสำหรับการย้ายมายัง เรอัล มาดริด นั้นเดิมทีก็เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเกือบทั้งทีม ก็จะยิ่งทำให้เขาได้ยกระดับฝีเท้า และทำผลงานออกมาได้สุดยอดมากยิ่งขึ้นไปอีก พร้อมกับคว้าทุกแชมป์ กวาดทุกรางวัล และทุบสถิติต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดพีกของดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสคนนี้อย่างแท้จริง และเขาได้ค้าแข้งกับ เรอัล มาดริดมากถึง 9 ฤดูกาล สรุปด้วยผลงานลงสนามไปทั้งสิ้น 438 นัดในทุกรายการ ทำประตูไปได้มากถึง 450 ลูก และเขายังได้คว้า แชมป์ลาลีกา ได้ 2 สมัย , ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย , ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 3 สมัย และ รางวัลบัลลงดอร์ อีก 5 สมัย และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็ถือได้ว่าเป็นนักเตะระดับโลกอีกคนนึง ที่ดีที่สุดในเวลานี้